กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองเขื่อน เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2522 และได้รับการส่งเสริมแนะนำจากเจ้าหน้าที่เกษตรให้สตรีในหมู่บ้านได้มีการรวมกลุ่มกันตามความสมัครใจ เพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่มและสร้างรายได้จากการประกอบอาชีพเสริม นอกเหนือจากอาชีพเกษตรกรรม และได้เปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่ม เป็น “แม่บ้านเกษตรกรวัยหวาน” ในปี พ.ศ. 2557 และเพื่อให้กลุ่มได้เกิดการพัฒนาและเพิ่มโอกาสทางด้านการตลาดที่มากขึ้น คณะกรรมการแม่บ้านเกษตรกรจึงมีการประชุมลงมติให้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ชื่อ “วิสาหกิจชุมชนวัยหวาน” พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ได้ดำเนินกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทางด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่มีในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแปรรูปจากกล้วยหอมทอง แหล่งที่มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองมากที่สุด คือจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก “กล้วยหอมทอง” เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สำคัญของประเทศไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกไปยังต่างประเทศ ด้วยคุณลักษณะของกล้วยหอมทองพันธุ์แท้ที่มีน้ำหนักมาก รสชาติดี และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน และยังนำส่วนต่างๆ ของกล้วยมาพัฒนาเป็นพลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ให้ได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการแปรรูปกล้วยหอมทองแบบครบวงจรของประเทศ
เนื่องด้วยในปี พ.ศ. 2560 รัฐบาลมีโครงการ 9101 ผ่านเข้ามาทางกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อให้ชาวบ้านได้ทำโครงการที่สามารถทำให้เกิดรายได้ในชุมชนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ก่อให้เกิดความยั่งยืนโดยหมู่บ้านหนองเขื่อนได้ทำการประชาคมกันและมีมติให้สร้างโดมพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้นำผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาแปรรูปและสิ่งที่ชุมชนเลือกคือการแปรรูปกล้วยหอมทองซึ่งช่วงนั้นล้นตลาดเป็นอย่างมากชาวบ้านจึงรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนวัยหวานขึ้นและผลิตสินค้าแปรรูปเกี่ยวกับ กล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้า และมะม่วงหาวมะนาวโห่ซึ่งมีอยู่ในชุมชนและได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมากเพราะเป็นสินค้าแปลกใหม่ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อปลูกกล้วยหอมทอง มะม่วงหาวมะนาวโห่และกล้วยน้ำว้าส่งให้กลุ่มเพื่อแปรรูปทำให้พืชผลทางการเกษตรของในหมู่บ้านไม่ต้องทิ้งให้เกิดความเสียหายทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจที่จะทำการเกษตรต่อไปเพราะกลุ่มรับซื้อกลับโดยการประกันราคาทั้งปีกล้วยหอมราคาหวีละ 20 บาท กล้วยน้ำว้ากิโลละ 5 บาท มะม่วงหาวมะนาวโห่ กิโละ 30 บาท การทำงานเป็นทีมและการช่วยเหลือกันของกลุ่มทำให้กลุ่มเราสามารถเดินมาได้จนถึงจุดนี้ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีถึงแม้กลุ่มเราจะขาดเรื่องการตลาดและเงินทุนแต่กลุ่มทุกคนพร้อมที่จะสู้และเดินไปด้วยกันเพื่อถึงจุดหมายที่เราตั้งไว้ให้ได้ในเร็ววันโดยมีหน่วยงานต่างๆเข้ามาให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน
และในปี 2564 ก็ได้จดทะเบียนเป็น บริษัท ป.เปาเล้ง ไทยอินเตอร์ฟรุ๊ต จำกัด ดำเนินธุรกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยดำเนินการตามกรอบแนวคิดและการบริหารจัดการแบบ “ขยะเหลือศูนย์” หรือ “zero waste management” นั่นคือ ทุกส่วนของพืชมีประโยชน์การใช้งาน และ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ โดยใช้ภูมิปัญญาไทยผสมผสานกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิผล ปัจจุบัน บริษัทฯ มีดำเนินการแปรรูป “กล้วยหอมทอง” ในรูปแบบ zero waste ดังนี้
“ผล”
แปรรูปเป็นสินค้าบริโภคได้หลากหลายชนิด ด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอนในการผลิต ทำให้กล้วยมีรสชาติหวาน เป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบเป็นขนมทานเล่น เช่น กล้วยหอมทองตากแสงอาทิตย์ แยมกล้วยตาก วาฟเฟิลกรอบกล้วยหอมทอง กล้วยกวน 3 รส กล้วยอัดเม็ด และ คุ้กกี้กล้วย เป็นต้น นอกจากนั้น ยังสามารถแปลงเพื่อนำมาปรุงเป็นเครื่องดื่ม เช่น กล้วยผงชงพร้อมดื่ม และ ไซรัปกล้วย เป็นต้น
“เปลือก”
สามารถแปรรูปเป็น ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวหน้า และ ครีมอาบน้ำ
“น้ำหล่อเลี้ยงในลำต้นกล้วย”
สามารถแปรรูปเป็น โฟมล้างหน้า สเปรย์ฉีดหน้า ซีรั่มบำรุงผิวหน้า ครีมบำรุงผิว สคลับหน้า ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว และครีมทาส้นเท้า
“ลำต้นกล้วย”
สามารถแปรรูปเป็นผ้าใยกล้วย โดยการเอาลำต้นกล้วยมาตีเป็นเส้นใยแล้วนำไปตากในโดมพลังงานแสงอาทิตย์ จากนั้นนำมาปั่นเป็นเส้นด้าย ก่อนมาทอเป็นผืนผ้า เพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อ กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ หรือ หมวก เป็นต้น
“กาบกล้วย”
สามารถแปรรูปเป็น ภาชนะใส่อาหาร
นอกจากนั้นเศษที่เหลือจากการตีใยกล้วย ยังสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ทำแผ่นกระดาษใยกล้วย หรือกล่องบรรจุภัณฑ์และภาชนะต่างๆได้ด้วย